เมนู

บิณฑบาตแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวาย
บังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูล
คำสนทนาปราศรัยกับอุคคคฤหบดีชาวเมืองเวสาลีทั้งหมดแด่
พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ ถูกแล้ว ๆ อุคคคฤหบดี
ชาวเมืองเวสาลี เมื่อจะพยากรณ์ พึงพยากรณ์ตามนั้นโดยชอบ
ดูก่อนภิกษุ เราพยากรณ์อุคคคฤหบดีว่า เป็นผู้ประกอบด้วยธรรม
ที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา 8 ประการนี้ และเธอทั้งหลายจง
ทรงจำอุคคคฤหบดีชาวเมืองเวสาลีว่า เป็นผู้ประกอบด้วยธรรม
ที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา 8 ประการนี้.
จบ ปฐมอุคคสูตรที่ 1

คหหดีวรรคที่ 3


อรรถกถาปฐมอุคคสูตรที่ 1


วรรคที่ 3

ปฐมอุคคสูตรที่ 1 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า ปญฺญตฺเต เอสเน นีสีทิ ความว่า ได้ยินว่า ในเรือน
ของอุคคะคฤหบดีนั้น เขาตกแต่งอาสนะ 500 ที่ ไว้สำหรับภิกษุ
500 รูป เป็นประจำทีเดียว ภิกษุนั่งเหนืออาสนะเหล่านั้น อาสนะหนึ่ง
บทว่า เต สุณาหิ ความว่า ท่านจงฟังธรรมเหล่านั้น หรือว่า

จงฟังธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา 8 ประการนั้น. บทว่า
จิตฺตํ ปสีทติ ความว่า แม้เพียงความตรึกว่าท่านเป็นพระพุทธเจ้า
หรือไม่หนอ ดังนี้ ก็ไม่เกิดขึ้น จิตตุปบาทว่าผู้นี้แหละเป็นพระพุทธเจ้า
เป็นอาการผ่องใส ไม่ขุ่นมัว. บทว่า สกานิ วา ญาติกุลานิ ความว่า
จงถือเอาทรัพย์พอยังอัตภาพ ให้เป็นไปสำหรับตนแล้วไปเรือน
ของพวกญาติ. บทว่า กสฺส โว ทมฺมิ ความว่า เราจะยกท่าน
ทั้งหลายให้แก่บุรุษคนไหน พวกท่านจงบอกความประสงค์ของตน ๆ
แก่เรา.
บทว่า อปฺปฏิวิภตฺตา ความว่า ก็ขึ้นชื่อว่าคนผู้เกิดจิตคิดว่า
เราจักให้เท่านี้ จักไม่ให้เท่านี้ จักให้สิ่งนี้ จักไม่ให้สิ่งนี้ ดังนี้
แล้วแจกจ่ายไป ย่อมมี แต่สำหรับข้าพเจ้าย่อมไม่เป็นอย่างนั้น.
โดยที่แม้แล โภคทรัพย์เหล่านั้น เป็นของสาธารณะกับผู้มีศีลทั้งหลาย
ดุจของสงฆ์และดุจของหมู่คณะ. บทว่า สกฺกจฺจํเยว ปยิรุปาสามิ
ความว่า ข้าพเจ้าอุปฐากด้วยมือของตนคือเข้าไปหาด้วยอาการ
ยำเกรง. ด้วยคำว่า อนจฺฉริยํ โข ปน มํ ภนฺเต นี้ คฤหบดีกล่าว่า
ท่านผู้เจริญ ข้อที่เทวดาเข้าไปหาข้าพเจ้าแล้วบอกอย่างนั้น นั่น
ไม่น่าอัศจรรย์ แต่ข้อที่ข้าพเจ้าไม่รู้สึกภูมิใจ อันมีการที่เทวดา
เข้าไปบอกเรื่องนั้นเป็นเหตุ นั้นน่าอัศจรรย์. ในคำว่า สาธุ สาธุ ภิกฺขุ
นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุก็จริง แต่ถึงกระนั้น พึงทราบว่า
นี้เป็นการประทานสาธุการในความร่าเริงอันเกิดจากความขวนขวาย
ของอุบาสกเท่านั้น
จบ อรรถกถาปฐมอุคคสูตรที่ 1

2. ทุติยอุคคสูตร


[112] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ บ้าน-
หัตถีคาม ในแคว้นวัชชี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียก
ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงทรงจำ
อุคคคฤหบดีชาวบ้านหัตถีคาม ว่าเป็นผู้ประกอบด้วยธรรมที่น่า
อัศจรรย์อันไม่เคยมีมา 8 ประกรร พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคต
ครั้นได้ตรัสพระดำรัสนี้แล้ว เสด็จลุกจากอาสนะเข้าไปสู่พระวิหาร.
ครั้งนั้น เวลาเช้า ภิกษุรูปหนึ่ง นุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร
เข้าไปยังนิเวศน์ของอุคคคฤหบดีชาวบ้านหัตถีคาม ครั้นแล้วจึงนั่ง
บนอาสนะที่เขาปูไว้ ลำดับนั้น อุคคคฤหบดีชาวบ้านหัตถีคาม
เข้าไปหาภิกษุนั้น ไหว้แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว
ภิกษุนั้นได้กล่าวกะอุคคคฤหบดีชาวบ้านหัตถีคามว่า ดูก่อนคฤหบดี
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ท่านว่า เป็นผู้ประกอบด้วยธรรม
ที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา 8 ประการ ดูก่อนคฤหบดี ธรรมที่
น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา 8 ประการเป็นไฉน.
อุคคคฤหบดีกล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ กระผมไม่ทราบ
เลยว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์กระผมว่า เป็นผู้ประกอบ
ด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา 8 ประการเป็นไฉน
แต่ขอท่านได้โปรดฟังธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา 8 ประการ
นี้ที่มีอยู่ จงใส่ใจให้ดี กระผมจักเรียนถวาย ภิกษุนั้นรับคำ
อุคคคฤหบดีชาวบ้านหัตถีคามแล้ว.